บีเอ็มเอ็กซ์ (BMX)
กว่าจะมาเป็น BMX
BMX (Bicycle Motocross) ได้ถือกำเนิดมาจากฝั่งประเทศตะวันตก ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จากกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่อยากจะขี่จักรยานได้เหมือนกับจักรยานยนต์วิบาก(Motocross)โดยได้มีการนำจักรยานประเภท Stingray มาขี่ในสนามทำขึ้นเหมือนกับสภาพสนามการแข่งขันจักรยานยนต์วิบาก(Motocross)โดยในยุคเริ่มต้นของจักรยาน BMX นั้นมีการปรับปรุงสมรรถนะของจักรยานโดยมีการนำระบบกันสะเทือน (Shock-Up) มาใช้กับตัวโครงรถและตะเกียบด้านหน้า แต่เนื่องจากน้ำหนักที่มากบวกกับราคาที่ค่อนข้างสูงและเพื่อให้ได้มีการใช้งานอย่างคล่องตัวและเด็กๆสามารถจะเป็นเจ้าของรถอย่างไม่ยากเย็นผู้ผลิตจักรยานในยุคนั้นจึงได้มีการปรุงและลดชิ้นส่วนต่างๆที่ไม่จำเป็นออกไป รูปแบบของจักรยาน BMX ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจึงได้กำเนิด ณ จุดนี้เอง 
จักรยาน Stingray ในสมัยก่อน
BMX ในประเทศไทย
จากอิทธิพลดังกล่าว ความนิยมของรถจักรยานประเภทวิบาก (Bicycle Motocross) ได้รับความนิยมและมีการแพร่หลายไปยังทั่วทุกมุมรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งในช่วง พ.ศ. 2518 นี้เองก็เป็นช่วงหนึ่งของหน้าประวัติรถจักรยานประเภทวิบากที่เรียกกันว่า Bicycle Motocross ช่วงนี้เองเป็นช่วงที่เด็กไทยมีความใฝ่ฝันอยากจะได้รถในฝันของตัวเองที่สามารถขี่ได้เหมือนกันกับสื่อที่ได้เห็นตามหน้าหนังสือรวมทั้งภาพยนตร์ ยุคนี้เองไม่มีใครที่จะปฎิเสธที่จะไม่รู้จักรถจักรยานที่มีโช๊คอัพอยู่ตรงกลางนาม “Merida Mono-Shock” จะเห็นได้จากทุกๆสนามการแข่งขันนั้นล้วนแล้วแต่จะมีรถยี่ห้อปรากฏอยู่ทุกๆสนามไป

ในยุคของการแข่งขันแรกๆนั้น (พ.ศ. 2519-2524) จักรยานประเภทวิบากนี้ยังต้องอาศัยสนามแข่งขันเดียวกับรถจักรยานยนต์วิบาก มีการสลับขั้นรายการระหว่างการแข่งทั้ง 2 ประเภทนี้ และช่วงระหว่างปีนี้เองนักแข่งหลายๆคนเริ่มที่จะมีการใช้จักรยาน BMX เข้าร่วมการแข่งขันเนื่องจากน้ำหนักที่เบากว่ารถประเภทโมโนโช๊คหลายตัว ใช้งานคล่องตัว เริ่มมีปรากฏให้เห็นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากยี่ห้อ โอลด์อีเกิ้ล ไปจนถึง ปรีดาBMX ไปจนหลากหลายยี่ห้อที่ผู้ผลิตจักรยานในประเทศไทยได้พัฒนาและผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการอันล้นหลาม
ปีพ.ศ2524-2526ปีนี้เองนับเป็นปีทองที่รุ่งเรืองของจักรยานBMX เนื่องจากความเสื่อมถอยความนิยมของรถโมโนโช๊คที่มีน้ำหนักมากบวกกับราคาของจักรยาน BMX ที่ถูกขึ้นเรื่อยๆนั้นส่งผลให้รถโมโนโช๊คได้หายตายไปกับสนามการแข่งขันจักรยานประเภทวิบาก ภาพที่เห็นในช่วงนั้นจะมีแต่จักรยาน BMX เท่านั้นเอง อะไหล่ดีๆจากต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น และ อเมริกาก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศไทยโดยร้าน, ห้างหุ้นส่วนต่างๆ ต่างก็ประสบความสำเร็จในเชิงธุรกิจเนื่องจากผลพวงความนิยมของจักรยาน BMX นี้เอง
ยุคนี้มีการจัดแข่งกันทั่วสารทิศ นักแข่งฝีมือดีๆเริ่มปรากฏ รวมทั้งทีมแข่งจากหลากหลายสังกัดที่เริ่มเฟ้นหานักแข่งฝีมือเข้าประจำสังกัดของตนเอง ส่วนรายการการแข่งขันจักรยานยนต์วิบากนั้นไม่มีงานไหนที่จะไม่มี BMX ปรากฏ
ที่มา:http://www.osbmx-thailand.com/